จากการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID 19 ระลอกที่ 3 ในหลายจังหวัดของประเทศไทยขณะนี้ โดยล่าสุดตัวเลขการแพร่ระบาดขยายวงกว้าง ประกอบกับมีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น สถานการณ์โรคโควิดในครั้งนี้ เริ่มส่งผลกระทบกับประชาชนรากหญ้าเป็นจำนวนมาก
หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ได้นำกำลังทหารจากกองร้อยทหารพรานที่ 3506 จัดกิจกรรมช่วยเหลือประชาชนตามนโยบายชอง กองทัพบกและกองทัพภาคที่ 3 โดยใช้รถจักรยานยนต์ ดัดแปลงเป็นรถพุ่มพวงขนพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษ จากแปลงผักเกษตรอินทรีย์ ออกแจกจ่ายแบ่งปัน ให้ประชาชนในชุมชน ที่ประสบกับความเดือดร้อน เพื่อเป็นการลดรายจ่ายของครอบครัว
ซึ่งผลผลิตจากแปลงผักของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ในครั้งนี้ เป็นผลผลิตจากโครงการทหารพันธุ์ดี ” ชุมชน เบิกบาน อาหารปลอดภัย ” ตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทานให้กับโรงเรียนบ้านแม่สลิดหลวงวิทยา หมู่ที่ 2 ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID 19
โดยที่ผ่านมากำลังทหารจากกองร้อยทหารพรานที่ 3506 ได้มีการสำรวจประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ได้เป้าหมายผู้ที่ประสบความเดือนร้อนจริงๆ โดยขณะนี้จัดส่งพืชผักปลอดสารจากเกษตรอินทรีย์ให้แก่ประชาชนในพื้นที่แล้ว จำนวน 20 ครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็น ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้พิการ เพื่อให้ประชาชนมีพืชผักไว้บริโภค ในยุคการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID 19
ทางด้าน พันเอกจักรพงษ์ เทพพันธุ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่35 เปิดเผยว่า หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ได้มีการ เปิดกิจกรรม ” รถปันสุขนักรบดำเคลื่อนที่ ” ในรูปแบบของรถพุ่มพวง เพื่อส่งมอบเป็นความสุขให้ถึงหน้าบ้าน ตามถนนสายหลักหน้าหมู่บ้าน ก่อนจะขับเข้าไปตามชุมชน ที่พบว่ามีกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้ ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียงอาศัยอยู่ จำนวนมาก ซึ่งเป็นเป้าหมายของการดำเนินกิจกรรม เป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงที่มีผลกระทบจากสภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงนี้
ทั้งนี้ก่อนที่กำลังพลชุดปฏิบัติการทีมรถพุ่มพวงหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 จะลงพื้นที่แจกจ่ายผลผลิต ทุกนายจะต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัส COVID – 19 โดยใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ก่อนทุกครั้ง และเมื่ออยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจ จะมีการเว้นระยะห่างที่เหมาะสม ตามมาตรการสาธารณสุขทุกครั้ง
กาญจนา เกตุทองมา รายงานจากกองทัพภาคที่ 3