จังหวัดเชียงใหม่ เกิดจุดความร้อนสะสมเพิ่มขึ้น คาดค่าคุณภาพอากาศจะมีค่าฝุ่นเพิ่มสูงขึ้นอยู่ในระดับสีเหลือง เน้นย้ำให้ทุกอำเภอเข้มงวดมาตรการควบคุมไฟในที่โล่งทุกเขตพื้นที่
วันนี้ (25 ม.ค. 66) ที่ ห้องศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายนาวิน สินธุสอาด รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 3/2566 เพื่อติดตามสถานการณ์และหารือแนวทางแก้ไขปัญหา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมฯ
โดยในที่ประชุม สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 ได้รายงานสถานการณ์ของค่าคุณภาพอากาศ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาต่อที่ประชุมว่า ตั้งแต่ห้วงวันที่ 1 มกราคม – 25 มกราคม 2566 จังหวัดเชียงใหม่ เกิดจุดความร้อน สะสม 245 จุด เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ป่าสงวน และพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง เกินค่ามาตรฐาน จำนวน 10 วัน โดยมีค่าสูงสุดอยู่ที่ 58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่อำเภอฮอด สาเหตุเกิดจากการติดตั้งสถานีวัดค่าคุณภาพอากาศในพื้นที่เขตก่อสร้าง รถบรรทุกสัญจรไปมา พื้นที่ใกล้เคียงมีอุตสาหกรรมโม่หิน ประกอบกับมีการก่อไฟกองเล็กๆ ในกิจวัตรประจำวันของชาวบ้านที่อาศัยใกล้เคียงจุดติดตั้งเครื่องวัด ส่งผลให้มีปริมาณฝุ่นในบริเวณโดยรอบ ทำให้ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เพิ่มขึ้น ซึ่งวันนี้ได้ทำการย้ายสถานีตรวจวัดไปยังเทศบาลตำบลท่าข้ามแล้ว คาดว่าค่าคุณภาพอากาศจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ อย่างไรก็ตามสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 คาดว่า จากนี้ไปจะมีปริมาณฝุ่นควันในอากาศเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ค่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีเหลือง หรือระดับปานกลาง จึงขอความร่วมมือประชาชนดูแลสุขภาพ และปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งครัด
สำหรับสถานการณ์ไฟป่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา จังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่เกิดจุดความร้อน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภออมก๋อย โดยเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า จุดความร้อนที่เกิดขึ้นมาจากการเผาของชาวบ้านเพื่อเตรียมทำการเกษตร ซึ่งเกษตรกรได้มีการลงทะเบียนบริหารจัดการเชื้อเพลิงผ่านระบบ Fire-D เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ทางอำเภอยังได้มีการเตรียมการป้องกันโดยจัดทำแนวกันไฟ ลาดตระเวนเฝ้าระวัง และในสัปดาห์หน้าจะมีการกำหนดห้วงการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในแต่ละตำบลด้วย สำหรับอำเภอกัลยาณิวัฒนา ภายหลังจากการเกิดจุดความร้อน ได้สั่งการให้ผู้นำท้องถิ่นลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมกับเรียกกลุ่มเกษตรกรประชุมหารือเพื่อปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงแทนการเผา ส่วนสถานการณ์ไฟป่ามี่เกิดจุดความร้อนในพื้นที่อำเภอไชยปราการ เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในพื้นที่ป่า พบตัวผู้กระทำผิด และส่งตัวดำเนินคดีไปตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลังจากนี้อำเภอไชยปราการจะได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 พร้อมประชุมทุกหน่วยงานเพื่อร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาต่อไป
ทั้งนี้รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ประธานการประชุม นำข้อสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งกำชับและเน้นย้ำให้ทุกอำเภอร่วมบูรณาการกับทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์ และดำเนินงานตามมาตรการควบคุมไฟป่าอย่างเข้มงวดในทุกพื้นที่ ให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสุขภาพที่ดีของคนเชียงใหม่