วันนี้ (29 พ.ย.64) ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เชียงใหม่ นายชัชวาล ทองดีเลิศ ประธานสภาลมหายใจเชียงใหม่ จัดกิจกรรมพบปะสื่อมวลชน เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนในหัวข้อ “ฝุ่นควัน 65 ความหวังและทางออก” เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนของสื่อมวลชนจากการทำงานตลอดช่วงที่ผ่านมา เพื่อนำไปพัฒนาแผนงานนโยบายการแก้ปัญหาฝุ่นควันของจังหวัดเชียงใหม่โดยเฉพาะในเขตเมือง
นางปลายอ้อ ทองสวัสดิ์ กรรมการสภาลมหายใจเชียงใหม่ กล่าวถึงการแก้ปัญหาฝุ่นควันในเขตพื้นที่เมือง ว่า สภาลมหายใจได้ผลักดันนโยบายขนส่งสาธารณะ ที่สร้างทางเลือกในการเดินทางให้กับประชาชน โดยจะต้องมีการปรับเปลี่ยนทัศนคติ และสร้างวิถีชีวิตใหม่ให้ประชาชนมีเสรีภาพในการเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุม ลดค่าใช้จ่ายจากรถยนต์ส่วนบุคคล ลดภาระหนี้สินที่เกิดขึ้น และมีเงินเก็บเพื่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่ขาดระบบขนส่งสาธารณะที่สามารถรองรับการเดินทางของชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยว ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่จำเป็นต้องมีรถส่วนตัว ซึ่งจากสถิติพบว่ามีรถที่จดทะเบียนกว่า 1.5 ล้านคัน และยังไม่รวมยานพาหนะที่จดทะเบียนในต่างจังหวัดอีกมาก ส่งผลให้ในช่วงต้นปีที่มีความกดอากาศไม่สามารถระบายอากาศได้ดี ก่อให้เกิดการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์และไอพิษจากการเผา สมทบกับฝุ่นควันของเครื่องยนต์รวมตลอดทั้งปีทำให้เกิดวิกฤตฝุ่นควันขึ้น
โดยจะนำโครงการสองแถวโมเดล-ขนส่งสาธารณะเครื่องยนต์สะอาด เพื่อรณรงค์การรักษาเครื่องยนต์ให้ปลอดควันดำและไอเสีย ทดลองเดินรถบนเส้นทางนำร่องรับ-ส่งนักเรียน จัดพื้นที่รับ-ส่งบนเส้นทางถนนสำคัญ เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพการจราจรแออัดและแก้ไขปัญหาฝุ่นควัน PM 2.5 จากแหล่งกำเนิดในเมืองให้ได้ในที่สุด และมีการสร้างแคมเปญ “ชาวเชียงใหม่ต้องการขนส่งสาธารณะ #SaveChiangMai” ให้ประชาชนลงชื่อสนับสนุนเพื่อผลักดันให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเชียงใหม่จัดตั้งระบบขนส่งสาธารณะพลังงานไฟฟ้าให้บริการแก่ประชาชน เพื่อลดฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดจากการคมนาคมของคนในเมือง
นอกจากนี้ยังได้มีการเสนอแนวทางการขับเคลื่อนและรณรงค์ในหลายแนวทางด้วยกัน เช่น การจะผลักดันให้เกิดระบบเตือนภัยสุขภาพที่เข้มข้นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการไฟ (Fire Management) จะต้องคงอยู่ แต่การแบ่งโซนการเผาต้องดูความเหมาะสมกับบริบทพื้นที่ มีการขับเคลื่อนแผนชุมชน การเชื่อมทำงานกับ 8 จังหวัดภายใต้แผนบริหารจัดการของจังหวัดเชียงใหม่ ในนามเครือข่ายสภาลมหายใจภาคเหนือ ระดมข้อเรียกร้องและข้อเสนอ ยื่นให้กับรัฐบาลพิจารณาและแก้ปัญหา ขณะเดียวกัน ยังเตรียมความพร้อมเปิดตัวสถานีฝุ่น เพื่อรายงานสถานการณ์ ผลกระทบและการช่วยเหลือ จากไฟป่าฝุ่นควันในพื้นที่ภาคเหนือ ร่วมกับภาคีเครือข่าย ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน 2565 อีกด้วย