จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อลดลง ด้านสถิติผู้เสียชีวิตส่วนมากเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่ยังไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อน ทั้งนี้ขอให้กลุ่มเสี่ยงสูงต้องรีบเข้ารับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว เพื่อป้องกันอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตได้
สถานการณ์โรคโควิด-19 จังหวัดเชียงใหม่ วันนี้ (21 พ.ย. 64) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือเพียง 240 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัดทั้งหมด โดยมาจากคลัสเตอร์ต่าง ๆ ประกอบด้วย คลัสเตอร์ใหม่และคลัสเตอร์ที่มีการระบาดต่อเนื่อง 21 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแอร์พอร์ตพลาซ่า พบเพิ่ม 7 ราย ยอดรวม 14 ราย โดยมีการกระจายไปหลายร้านในห้างดังกล่าว, คลัสเตอร์บ้านกองปะ หมู่ 7 ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด 6 ราย, คลัสเตอร์ไซต์งานก่อสร้างสนามกีฬา มหาวิทยาลัยราชภัฏ วิทยาเขตสะลวง-ขี้เหล็ก อำเภอแม่ริม 3 ราย, คลัสเตอร์กลุ่มทำนา หมู่ 7 ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง 2 ราย และคลัสเตอร์สำนักงานชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ 1 ราย นอกนั้นเป็นคลัสเตอร์เล็กๆ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่คลัสเตอร์ละ 1 ราย
ส่วนคลัสเตอร์เดิมที่ตรวจพบจากกลุ่มเสี่ยงระหว่างการกักตัว การออกตรวจเชิงรุก และการติดตามผู้สัมผัส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 39 ราย ได้แก่ คลัสเตอร์ตลาดเมืองใหม่ พบเพิ่ม 3 ราย ยอดรวม 2,018 ราย, คลัสเตอร์บ้านแม่แจ๊ะ หมู่ 13 ตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม 3 ราย, คลัสเตอร์หอผู้ป่วยชาย โรงพยาบาลหางดง 3 ราย, คลัสเตอร์บริษัทนิ่มซี่เส็ง สาขาฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ 2 ราย และคลัสเตอร์ตลาดรวมโชค ตำบลฟ้าฮ่าม 2 ราย ส่วนคลัสเตอร์อื่น ๆ พบคลัสเตอร์ละ 1-2 ราย ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังและดำเนินการควบคุมโรคอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเพิ่มขึ้น
ด้านผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า 67 ราย ขณะที่การระบาดในครอบครัวยังคงพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 14 ราย จาก 7 ครอบครัว และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคอีก 116 ราย
ทั้งนี้อำเภอที่พบผู้ติดเชื้อมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ 105 ราย ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อที่อยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ 67 ราย, อำเภอแม่ริม 26 ราย, อำเภอดอยสะเก็ด 22 ราย อำเภอสันทราย 18 ราย และอำเภอสันกำแพง 15 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 2 รายวันนี้ รายแรกเป็นชายไทย อายุ 71 ปี ไม่มีโรคประจำตัว ติดเชื้อจากการสัมผัสในครอบครัว และไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันมาก่อน โดยวันที่ 2 พฤศจิกายน คนในครอบครัวติดเชื้อ จึงไปตรวจ RT-PCR พบว่าติดเชื้อโควิด รับไว้รักษาที่โรงพยาบาลสนาม ต่อมามีอาการหนักมากขึ้น จึงส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ วันที่ 19 พฤศจิกายน ปอดอักเสบรุนแรงมากขึ้น ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตลง ในเวลา 18.03 น.
อีกรายเป็น เป็นหญิงไทย อายุ 55 ปี มีโรคประจำตัว คือ จิตเภท ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อไม่ชัดเจน ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม 1 เข็ม เมื่อ 22 ตุลาคม โดยวันที่ 9 พฤศจิกายน เริ่มมีอาการไข้ หลังจากนั้นอีก 4 วัน จึงเข้ารับการตรวจ RT-PCR พบว่าติดเชื้อและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนวันที่ 15 พฤศจิกายน มีอาการมากขึ้นจึงได้ย้ายไปรักษาที่ดรงพยาบาลจอมทอง วันที่ 17 พฤศจิกายน ปอดอักเสบรุนแรงมากขึ้น ผู้ป่วยไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา วันที่ 20 พฤศจิกายน ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตลง ในเวลา 13.42 น.