กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัด ” โครงการพาคนพิษณุโลกกลับบ้าน ” เพื่อนำคนต่างจังหวัดที่ติดค้างในกรุงเทพมหานครฯ ที่ไม่มีงานทำหรือตกงาน ทั้งที่ติดเชื้อโควิด – 19 และไม่ติดเชื้อ กลับภูมิลำเนาของตนเอง เนื่องจากระบบสาธารณสุขของต่างจังหวัด ยังมีศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยได้ ถือว่าเป็นการลดภาระของระบบสาธารณสุขในจังหวัดที่มีสีแดงเข้ม
โดยเมื่อวานนี้ พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 มอบหมายให้ พล.ต.วีรวัฒน์ วิวัฒน์วานิช เลขาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ประชุมวางแผน ” โครงการพาคนพิษณุโลกกลับบ้าน” ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก, รพ.ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดพิษณุโลก เพื่อพิจารณาวางแผนโครงการ
ทั้งนี้” โครงการพาคนพิษณุโลกกลับบ้าน ” จะใช้รถบัสรุ่นพัดลมของกองทัพบก พาคนต่างจังหวัดที่ประสงค์จะกลับบ้าน ด้วยความปลอดภัยทั้งจากการแพร่ระบาดฯ และจากอุบัติเหตุทางท้องถนน ซึ่งผู้ที่เดินทางกลุ่มแรก จะเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ จำนวนประมาณ 30 คน โดยกองทัพภาคที่ 3 จะจัดรถบัสออกเดินทางไป กทม.ฯ ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 พร้อมรถอำนวยการเพื่อควบคุมการเดินทาง จากนั้นกองทัพบกจะจัดรถขนส่งขนาดเล็ก ทยอยออกรับผู้ที่ต้องการเดินทางจากบ้านนำมาส่ง ที่รวมพล ซึ่งกองทัพบกจะเป็นผู้กำหนดในเบื้องต้น
เมื่อผู้เดินทางมาที่จุดรวมพลตามที่กองทัพบกกำหนด แล้ว กองทัพภาคที่ 3 จะนำผู้โดยสารทั้งหมดออกเดินทาง ในเวลา 1500 โดยระหว่างทางจะแวะพักที่สโมสรค่ายจิรประวัติ อ.เมือง จว.น.ว. แล้วเดินทางต่อจนถึง รร.เมย์ฟลาวเวอร์ อ.เมือง จว.พ.ล. ใน เวลา 2100 น. โดยในระหว่างทาง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดในแต่ละจังหวัดจะเป็นผู้ประสานรถนำของตำรวจให้เพื่อความสะดวกในการขนส่ง
ในขณะที่ ผู้ที่ทำหน้าที่เป็น พลขับ และ ผช.พลขับ ประจำรถโดยสารครั้งนี้จะนำรถ จอดรถทิ้งไว้ที่ รร.เมย์ฟลาวเวอร์ อ.เมือง จว.พ.ล. ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกจะจัดเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดรถและกำจัดเชื้อให้ โดยภายหลังที่ พลขับ และ ผช.พลขับ ปฏิบัติงานเสร็จ ทุกคนเข้าสู่ระบบกักตัว Bubble & seal ของ รพ.ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเมื่อครบกำหนดการกักตัว 14 วันตามระบบ พลขับฯ ออกไปขับรถรอบต่อไปได้ก่อน 14 วัน เนื่องจากฉีดวัคซีนแล้ว และกองทัพภาคที่ 3 จะมีการปรับปรุงห้องพลขับ ให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบ Bubble & seal ของ รพ.ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อความปลอดภัยของพลขับ และ ผช.พลขับ ประจำรถโดยสาร
กาญจนา เกตุทองมา รายงานจากกองทัพภาคที่ 3