จากสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มีความรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งยังเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน สร้างความเสียหายแก่ชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงของฤดู ในพื้นที่ของภาคเหนือมักจะได้รับผลกระทบจากพายุฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาพพื้นที่เป็นป่าเขา หลายพื้นที่มักจะเกิดอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ความพร้อมของหน่วยบรรเทาสาธารณภัย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งทั้งทางด้านแผนการปฏิบัติ และด้านความพร้อมของกำลังพล ชุดช่วยเหลือกู้ภัยต่าง ๆ ซึ่งจะต้องทำการฝึก ซักซ้อมการปฏิบัติ ตามแผนบรรเทาสาธารณภัยเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และมีความประสานสอดคล้อง ทั้งแผนของหน่วยทหาร และแผนของจังหวัด ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน สามารถให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทั่วถึง และทันเวลา ซึ่งการฝึกของชุดช่วยเหลือกู้ภัยนั้นก็เพื่อเป็นการพัฒนาองค์ความรู้ และเพิ่มศักยภาพ ให้แก่กำลังพลของแต่ละหน่วยในการช่วยเหลือกู้ภัย ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่รับผิดชอบของตนเองได้อย่างทันเวลา มีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยสูงสุด
การจัดฝึกอบรมในครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจาก ผู้ปฏิบัติจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ทีมสาธารณสุข ทีมกู้ชีพ กู้ภัย จะได้ร่วมกันวางแผน เตรียมการ และซักซ้อมการปฏิบัติตามแผน เพื่อให้เข้าใจในระบบการบัญชาการ การอำนวยการ และการประสานงานได้อย่างรวดเร็ว มีความประสานสอดคล้องเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ตลอดจนฝึกการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพิ่มทักษะ ความชำนาญ ในการใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องกับภารกิจที่ได้รับมอบ ก็จะทำให้ภารกิจสำเร็จและมีความปลอดภัยสูงสุด ทั้งต่อเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน และประชาชนที่ได้รับการช่วยเหลือ
ในการนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 33 ได้จัดการฝึกอบรมในระหว่างวันที่ 24 – 25 มิถุนายน 2564 ที่สโมสรกาวิละ ค่ายกาวิละ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และที่ศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 33 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ เพื่อให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เอกชน สามารถดำเนินการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความสูญเสียของชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ทั้งนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 33 รับผิดชอบ วางแผน อำนวยการ ประสานงาน ในการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยในพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำพูน และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งตามที่ได้มีการแบ่งมอบพื้นที่รับผิดชอบในระดับอำเภอให้แก่หน่วยต่าง ๆ ในการจัดกำลังเข้าให้ความช่วยเหลือ ไปแล้วนั้น ให้ทุกหน่วย ได้มีการวางแผนการปฏิบัติ ในพื้นที่รับผิดชอบของตนเอง ตามขั้นตอนตั้งแต่การเฝ้าระวัง การติดตามสถานการณ์ของภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น รวมทั้งแผนการจัดกำลัง เข้าให้ความช่วยเหลือ และ การรายงาน เพื่อจะได้มีการประสานงาน กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการสนับสนุน อันจะทำให้ภารกิจการช่วยเหลือบรรเทาภัยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
พลตรีจิราวัฒน์ จุฬากุล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 เปิดเผยว่า การฝึกการบรรเทาสาธารณภัยและการช่วยเหลือประชาชน ในครั้งนี้ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ และเพิ่มศักยภาพกำลังพล ของมณฑลทหารบกที่ 33 และหน่วยรับผิดชอบ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยการ และการปฏิบัติงานด้านการช่วยเหลือประชาชน และการบรรเทาภัยพิบัติ ให้เข้าใจในระบบ การควบคุมบังคับบัญชา ขอบเขตความรับผิดชอบรวมถึงมีความรู้ความสามารถ ในการประเมินสถานการณ์ภัยพิบัติ แนวโน้มทิศทางและระดับความรุนแรง พร้อมทั้งสามารถปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชน จากสาธารณภัย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเครื่องมือ และยุทโธปกรณ์
กาญจนา เกตุทองมา รายงานจากกองทัพภาคที่ 3